ปัญหาผิวหน้าที่อาจเกิดขึ้นได้ เมื่อจำเป็นต้องใส่หน้ากากอนามัย

กรมการแพทย์ โดยสถาบันโรคผิวหนัง ชี้ปัญหาผิวหน้าที่อาจเกิดขึ้นได้ เมื่อจำเป็นต้องใส่หน้ากากอนามัย  ในช่วงที่มีการระบาดของโรคโควิด 19 พร้อมแนะนำวิธีการใส่หน้ากากอนามัยที่ถูกต้อง และวิธีปฏิบัติตัวเมื่อเกิดปัญหาผิวหน้าจากการใส่หน้ากากอนามัย

นายแพทย์สมศักดิ์ อรรฆศิลป์  อธิบดีกรมการแพทย์   เปิดเผยว่า  เนื่องจากช่วงที่มีการระบาดของโควิด 19 หน้ากากอนามัยเป็นสิ่งจำเป็นที่เราทุกคนจะต้องใช้  เพื่อป้องกันการติดเชื้อและการแพร่กระจายเชื้อ วิธีการใส่หน้ากากอนามัยที่ถูกต้อง คือ หน้ากากอนามัยไม่ควรหลวมหรือแน่นเกินไป  ควรเลือกหน้ากากอนามัยที่กระชับกับใบหน้า และครอบคลุมทุกส่วนของจมูก แก้มและคาง ไม่ควรมีการรั่วบริเวณหน้ากากและผิวหนัง ที่สำคัญการใส่หน้ากากอนามัยใต้จมูกไม่ได้ช่วยป้องกันการติดเชื้อ 

อย่างไรก็ตาม การใส่หน้ากากอนามัยอาจก่อให้เกิดปัญหาทางโรคผิวหนังได้ เช่น ปัญหาผิวหนังอักเสบบริเวณสายคล้องหู  ปัญหาผิวหน้าอักเสบเกิดจากการระคายเคือง  และปัญหาสิวจากผิวที่ถูกับหน้ากากอนามัย และผดจากความร้อน เป็นต้น

แพทย์หญิงมิ่งขวัญ  วิชัยดิษฐ  ผู้อำนวยการสถาบันโรคผิวหนัง  กรมการแพทย์   กล่าวเพิ่มเติมว่า  ปัญหาผิวหนังอักเสบบริเวณสายคล้องหู เป็นการระคายเคืองจากการเสียดสี และเหงื่อเช่นเดียวกับผิวหน้า ควรเลือกหน้ากากอนามัยที่กระชับพอดี ไม่รัดแน่น หรือหลวมเกินไป ปัจจุบันมีอุปกรณ์เพื่อช่วยไม่ให้สายคล้องหูรัดมากเกินไป แนะนำเลือกใช้เสริมได้ หากมีการอักเสบต่อเนื่องหรือค่อนข้างมาก ควรพบแพทย์ผิวหนัง เพื่อรับยาลดการอักเสบที่เหมาะสม ส่วนปัญหาผิวหน้าอักเสบเกิดจากการระคายเคือง โดยเฉพาะเมื่อต้องใส่หน้ากากอนามัยเป็นเวลานาน

นอกจากนี้ อากาศร้อนก็ทำให้สภาพผิวหนังอ่อนแอลง และเกิดการระคายเคืองได้ ทั้งจากการสัมผัสเสียดสี และจากสารเคลือบหน้ากาก ไม่แนะนำให้ใส่หน้ากากอนามัยแบบหลวม เพราะจะไม่สามารถป้องกันเชื้อโรคได้  สิ่งที่ควรปฏิบัติคือระมัดระวังอย่าให้เหงื่อออกมาก และเปลี่ยนหน้ากากอนามัยเมื่อเริ่มเปียกชื้น แนะนำการใช้ครีมบำรุงผิวให้ผิวหน้าแข็งแรง ควรหลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่ทำให้หน้าขาว เนื่องจากอาจมีส่วนประกอบที่ระคายผิว ควรเลือกครีมกันแดดกับครีมบำรุงผิวที่ไม่มีสารที่ก่อให้เกิดการอุดตัน

ผู้อำนวยการสถาบันโรคผิวหนัง   ให้คำแนะนำเพิ่มเติมว่า ปัญหาสิวซึ่งเกิดจากการถูของหน้ากากอนามัยกับใบหน้า และผดที่เกิดจากความร้อน เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ เนื่องจากปัญหาดังกล่าวขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคล  แนะนำใช้ผลิตภัณฑ์รักษาสิวที่เหมาะกับผิวบุคคลนั้นจะช่วยทำให้อาการดีขึ้นหรือไม่เป็นมากได้

 

แหล่งที่มา: https://www.thaihealth.or.th/Content/52903-%E0%B8%9B%E0%B8%B1%E0%B8%8D%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%9C%E0%B8%B4%E0%B8%A7%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%B2%E0%B8%88%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B8%B4%E0%B8%94%E0%B8%82%E0%B8%B6%E0%B9%89%E0%B8%99%E0%B9%84%E0%B8%94%E0%B9%89%20%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%88%E0%B8%B3%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B9%87%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B9%83%E0%B8%AA%E0%B9%88%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%B1%E0%B8%A2.html