นิ่วในไต เกิดจากการตกตะกอนของสารต่างๆ
ในปัสสาวะจนการเป็นผลึกและสะสมนานพอจนกลายเป็นก้อนนิ่วในที่สุด
โดยอาศัยปัจจัยกระตุ้นหลายอย่าง เช่น การตีบแคบของทางเดินปัสสาวะ หรือ
การที่มีสารนั้นๆ กรองมาในปัสสาวะมากเกินไป เช่น อ็อกซาเลต (oxalate) ซึ่งเป็นสารมีฤทธิ์ในการยับยั้งการดูดซึมของแคลเซียมและแร่ธาตุสำคัญหลายชนิด
และการติดเชื้อทางเดินปัสสาวะซ้ำๆ หรือมีปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดนิ่ว
โดยนิ่วสามารถเกิดได้จากหลากหลายปัจจัยเสี่ยง ทั้งด้านสิ่งแวดล้อม
ระบบการเผาผลาญในร่างกาย (Metabolism) พันธุกรรม
วิถีการดำเนินชีวิต และอุปนิสัยการรับประอาหารของแต่ละคน
เราสามารถหลีกเลี่ยงการเกิดนิ่วในไต
ด้วยการหยุดพฤติกรรมเหล่านี้
1.ดื่มน้ำน้อย หรือไม่ดื่มน้ำชดเชยเหงื่อที่สูญเสียไป
หากเราต้องทำงานในที่กลางแจ้ง จะมีการเสียเหงื่อปริมาณมาก ยิ่งในหน้าร้อนแล้ว
เหงื่อที่ออกเพิ่มขึ้น ทำให้ปัสสาวะลดลง
ส่งผลให้สารตั้งต้นในการเกิดนิ่วสะสมในทางเดินปัสสาวะได้ง่ายขึ้น
**ควรดื่มน้ำให้เพียงพอเพื่อชดเชยน้ำที่เสียไป
2.ดื่มน้ำชามากกว่าน้ำเปล่า การดื่มชาทุกวันในปริมาณมาก
ไม่ว่าจะเป็นชาดำเย็น ชามะนาว หรือ ชาร้อน โดยเฉพาะ ชาดำ (Black Tea) เนื่องจากชาดำมีสาร ออกซาเลต (oxalate) ในปริมาณสูง
เมื่อรวมตัวกับแคลเซี่ยมจะกลายเป็นผลึกนิ่วได้
**ดื่มน้ำเปล่าดีที่สุด
3.ชอบอาหารรสจัด เนื่องจากการรับประทานอาหารรสจัด
โดยเฉพาะ “เค็มจัด” เช่น หน่อไม้ดอง ปลาร้า ปลาเค็ม จะส่งผลให้ไตทำงานหนัก
และกระตุ้นให้เกิดนิ่วตามมา
**ปรุงรสอาหารแต่พอดี
4.รับประทานแคลเซี่ยมไม่เพียงพอ
เมื่อองค์ประกอบส่วนใหญ่ของนิ่วเป็น แคลเซี่ยม
แต่การทานแคลเซี่ยมไม่ได้กระตุ้นให้เกิดนิ่วไต
ตรงกันข้ามการที่ร่างกายขาดแคลเซี่ยมต่างหาก ที่จะเร่งให้ลำไส้ดูดซึมแคลเซี่ยมกลับเข้ามา
และทำให้เกิดนิ่วไ
**รับประทานแคลเซี่ยมเสริม ภายใต้คำแนะนำของแพทย์
5.ชอบรับประทานเนื้อแดง
มีนิ่วอีกชนิดหนึ่งที่เจอได้บ่อยไม่แพ้กัน คือ “นิ่วยูริก”
โดยในอาหารที่มีพิวรีนสูง จะทำให้เกิดการสะสมกรดยูริกในร่างกาย นอกจากจะทำให้เป็น
“เก๊าต์” แล้ว กรดยูริก ยังสะสมในไตจนเกิดนิ่วได้ ควรเลี่ยงเนื้อแดง
เครื่องในสัตว์ และเบียร์ เป็นต้น
**รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ และครบ 5 หมู่
ขอขอบคุณแหล่งที่มา
: https://www.bangkokpattayahospital.com/th/healthcare-services/urology-center-th/urology-articles-th/item/2892-kidney-stones-th.html