ผลวิจัยในสหรัฐอเมริกาพบว่า การให้วิตามิน C, E เบต้าแคโรทีน,
ธาตุสังกะสี และธาตุทองแดง
มีประโยชน์ในการชะลอการเสื่อมมากขึ้นของผู้ป่วยที่เป็นโรคจอประสาทเสื่อม
ตั้งแต่ระดับกลางขึ้นไป (Moderate Age-Related Macular Degeneration) ทั้งนี้ในผู้ป่วยที่มีโรคจอประสาทเสื่อมเพียงเล็กน้อยอาจไม่ได้ประโยชน์เท่าไรนักจากการรับประทานวิตามินดังกล่าว
หมอตาจะเป็นผู้ประเมินระดับความเสื่อมของจอประสาทตาจาการขยายม่านตา
ดังนั้นถ้ามาตรวจตาไม่ได้วิตามินกลับไปรับประทานก็อย่าเสียใจ
นั่นแสดงว่าจอประสาทตายังสุขภาพดีอยู่หรือผิดปกติเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
ถ้าอย่างนั้นเรามีวิธีการบำรุงสายตาโดยการทานอาหารเสริมได้หรือไม่ ? จากการวิจัยของแพทย์ในสหรัฐอเมริกาและหลายประเทศพบว่า
การรับประมานอาหารเสริมที่มีสารอาหารดังต่อไปนี้มีส่วนช่วยในการบำรุงสายตา
1.วิตามิน A
เป็นสารที่ช่วยในการทำงานของจอประสาทตาและมีบทบาทสำคัญในการมองเวลากลางคืน
ซึ่งพบมากในผักจำพวก ชะอม คะน้า ยอดกระถิน ตำลึง ผักโขม ฟักทอง
2.วิตามิน B
มีการศึกษาพบว่า วิตามิน B1 และ B12 อาจมีบทบาทในการชะลอการเกิดต้อกระจกได้ โดยแหล่งที่มีวิตามินชนิดนี้มาก
ได้แก่ ตับ ไข่ เนื้อสัตว์ นมสด
3.วิตามิน C
เป็นที่รู้จักกันดีของการชะลอความแก่ของร่างกายด้วยคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระ
(antioxidant) นอกจากนั้นยังอาจช่วยชะลอการเกิดต้อกระจกได้อีกด้วย
ผลไม้ที่มีวิตามิน C มาก ได้แก่ ฝรั่ง ส้ม สับปะรด มะขามป้อม
ส่วนผัก ไก้แก่ กะหล่ำดอก บร็อคโคลี่
4.วิตามิน E
ก็เป็นวิตามินอีกตัวหนึ่งที่มีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระซึ่งมีอยู่ในเซลล์รับแสงที่จอประสาทตา
และการศึกษาพบว่าอาจมีบทบาทช่วยชะลอการเกิดต้อกระจกเช่นเดียวกัน พบได้ใน
น้ำมันธัญพืช น้ำมันดอกคำฝอย ข้าวโพด ถั่วเหลือง
5.เบต้าแคโรทีน (betacarotene)
เป็นสารตั้งต้นของวิตามิน A ซึ่งมีบทบาทในการต้านอนุมูลอิสระและช่วยในการมองเห็นในกลางคืนเช่นเดียวกับวิตามิน
A พบมากในผักผลไม้ที่มีเหลืองส้ม เช่น แครอท มะละกอ
ข้าวโพดอ่อน หน่อไม้ฝรั่ง ผักบุ้ง
ข้อควรระวังคือการรับประทานเบต้าแคโรทีนในรูปอาหารเสริมมากไปในคนที่สูบบุหรี่จะเพิ่มโอกาสเกิดมะเร็งปอดได้
6.ลูทีน และ
ซีแซนทิน (lutein and zeaxanthin) เป็นส่วนประกอบสำคัญที่พบในจุดรับภาพที่จอประสาทตาและเลนส์ตา
มีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระ
จากการศึกษาพบว่ามีส่วนช่วยในการชะลอการเกิดต้อกระจกและโรคจอประสาทตาเสื่อม
พบมากใน ผักโขม ไข่แดง ข้าวโพด บร็อคโครี่
7.ซีลีเนียม (selenium)
เป็นสารอีกตัวหนึ่งที่ต้านอนุมูลอิสระและอาจช่วยชะลอการเกิดต้อกระจก
โดยพบได้ใน หอยนางรม หอยลาย ตับไก่ เมล็ดทานตะวัน
8.สังกะสี (zinc)
มีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระ
จากการศึกษาพบว่ามีส่วนช่วยในการทำให้จอประสาทตาเสื่อมที่เป็นอยู่แล้วเป็นช้าลง
โดยแหล่งที่พบสังกะสีได้แก่ หอยนางรม ตับ เนื้อสัตว์
9.สารสกัดจากใบแปะก๊วย
(Ginkgo biloba) นอกจากคุณสมบัติเพิ่มเลือดไหลเวียนไปที่สมองแล้วยังมีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระเกี่ยวกับสายตาพบว่า
อาจช่วยรักษาลานสายตาผิดปกติในต้อหินบางชนิดได้
10.โอเมก้า 3
(omega 3) เป็นกรดไขมันที่มีบทบาทสำคัญในการรักษาภาวะตาแห้ง
ซึ่งพบมากในปลาทะเล เช่น ปลาแซลมอน ปลาซาร์ดีน ผลไม้ที่พบได้ เช่น ผลกีวี่
ที่มา สสส. https://www.thaihealth.or.th