ห่างไกลโรค ด้วยผลไม้เบอร์รี 7 ชนิด

องุ่น (Grape) น้ำตาลที่ได้จากองุ่นนั้น เป็นน้ำตาลที่สามารถดูดซึมได้เร็ว จึงทำให้รู้สึกสดชื่นและให้พลังงานได้เร็ว และยังช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอการรับประทานองุ่นเป็นประจำจะมีส่วนช่วยในการบำรุงหัวใจ บำรุงสมอง บำรุงกำลัง แก้อาการกระหายน้ำ และคนที่มีร่างกายผอมแห้งแรงน้อย ไร้เรี่ยวแรง แก่ก่อนวัย หาก

รับประทานองุ่นเป็นประจำ จะช่วยส่งเสริมร่างกายค่อย ๆ แข็งแรงขึ้นมาได้

 

เคพกูสเบอร์รี (Cape Gooseberry) ที่อุดมไปด้วย วิตามินซีที่มีคุณสมบัติป้องกันไข้หวัด ภูมิแพ้ และวิตามินเอที่ช่วยป้องกันอาการตาบอดในที่มืด บำรุงสายตา บำรุงผิว ผมสวยดกดำ

 

แครนเบอร์รี (Cranberry) เป็นแหล่งวิตามินและเกลือแร่หลากชนิด ทั้งวิตามินซี วิตามินอี วิตามินเค 1 แมงกานีส และทองแดง ซึ่งล้วนเป็นสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย และยังอุดมไปด้วยสารชีวภาพหลายชนิดที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ แครนเบอร์รียังมีกรดซาลิไลลิก (Salicylic Acid) ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญของยาแอสไพรินที่มีสรรพคุณช่วยบรรเทาอาการบวม ป้องกันการเกิดลิ่มเลือด และอาจช่วยต้านเซลล์มะเร็งได้ แต่หากบริโภคน้ำแครบเบอร์รีเป็นประจำ ก็อาจส่งผลให้ระดับกรดซาลิไซลิกในร่างกายเพิ่มสูงขึ้นได้ จนเสี่ยงเกิดเป็นนิ่วในไต

แบล็คเบอร์รี่ (Blackberry) มีส่วนประกอบของวิตามินซีสูงมาก ซึ่งสามารถฟื้นฟูคลอลาเจนได้ดี ช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ ช่วยเสริมสร้างภูมิค้มกันและยังมีวิตามินเอ วิตามินอี ช่วยชะลอการเดริ้วรอยก่อนวัย บำรุงผิว สมานบาดแผล วิตามินบีรวม วิตามินเค และวิตามินอื่น ๆ ที่ช่วยในการเผาผลาญ อุดมไปด้วยกากใยอาหารช่วยขับถ่าย มีกรดเอลลาจิก ช่วยในการลดความเสี่ยงการเกิโดรมะเร็ง ช่วยในการรักษาความสมดุลของฮอร์โมนเพศหญิง ลดโอกาสแท้งบุตรในเพศหญิง

 

ราสเบอรร์รี (Raspberry) มีสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกันในร่างกย มีน้ำตาลต่ำ จึงช่วยควบคุมน้ำหนักตัวได้ สารสีแดงในราสเบอร์รีเป็นตัวช่วยในการไหลเวียนของโลหิต ช่วยลดโอกาสแท้งบุตรในเพศหญิง เพราะราสเบอร์รี่มีโฟลิกที่เป็นตัวช่วยเพิ่มความสมบูรณ์ให้กับตัวอ่อนระหว่างตั้งครรภ์

 

บลูเบอร์รี (Blueberry) มีสารฟลาโวนอยด์ชนิดหนึ่งหรือที่เรียกว่า แอนโธไซยานิน (Anthocyanin) ซึ่งเป็นสารที่ประกอบจากพีชที่มีฤทธิ์ในการต้านอนุมูลอิสระ และมีประโยชน์ต่อร่างกายในด้านอื่น ๆ ด้วย จากการวิจัยพบว่า การรับประทานบลูเบอร์รี่จะมีส่วนช่วยลดความเสี่ยงเป็นโรคอ้วน โรคเบาหวาน โรคหัวใจ นอกจากนี้ บลูเบอร์รียังมีประโยชน์ด้านอื่น ๆ เช่น บำรุงสุขภาพผิว บำรุงสายตา บำรุงกระดูกให้แข็งแรง ลดความดันโลหิต และป้องกันการเกิดโรคหัวใจ เป็นต้น

 

สตรอว์เบอร์รี (Strawberry) แม้จะมีคำว่าเบอร์รีอยู่ในชื่อ แต่ผลไม้ชนิดนี้กลับไม่ได้อยู่ตระกูลของเบอร์รี เพราะสตรอว์เบอร์รีนั้นเป็นผลไม้ที่จัดอยู่ในตระกูลเดียวกับพวกกุหลาบ ที่มีมากกว่า 20 สปีชีส์และมีลูกผสมอีกมากมาย สตรอว์เบอร์รีนั้นอุดมไปด้วยสารต่อต้านอนุมูลอิสระหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็น เควอซิทิน (Quercetin) เคทเฟอรอล (Kaempferol) แอนโทไซยานิน (Anthocyanin) ซึ่งสารดังกล่าวมีส่วนช่วยในการยับยั้งสารก่อมะเร็งต่าง ๆ ได้และยังมีวิตามินซีในปริมาณสูง สร้างเสริมภูมิคุ้มกัน สร้างคอลลาเจนให้ผิวหนัง ช่วยป้องกันโรคหวัด ช่วยลดอาการภูมิแพ้ ช่วยลดอาการฌรคช่องปากที่เกิดจากการขาดวิตามินซี

 

ที่มา เว็บไซต์โรงพยาบาลเปาโล รังสิต www.paolohospital.com