คนญี่ปุ่นให้ความสำคัญกับสภาพแวดล้อมและการทำงานของลำไส้เป็นอย่างมาก
เพราะพวกเขาเชื่อว่าหากสุขภาพของลำไส้ดี ก็จะส่งผลให้สุขภาพร่างกายแข็งแรง
คงความงามและความอ่อนเยาว์ไว้ รวมถึงทำให้ผอมด้วย ดังนั้นคนญี่ปุ่นมักให้ความสำคัญกับผลิตภัณฑ์อาหารหมักดองที่อุดมไปด้วยกรดแลคติก
แอซิด แบคทีเรีย หนึ่งในอาหารหมักดองที่แม้จะมีสัญชาติเกาหลี
แต่คนญี่ปุ่นก็นิยมรับประทานเป็นประจำเกือบทุกวันคือ กิมจิ มารู้ประโยชน์ของกิมจิ
วิธีการรับประทานเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของลำไส้จากคนญี่ปุ่นกัน
4 ประโยชน์ของ “กิมจิ”
ช่วยให้การทำงานของลำไส้ดี
กิมจิอุดมไปด้วยแลคติกแอซิด แบคทีเรีย
การรับประทานกิมจิเป็นประจำจะทำให้สิ่งแวดล้อมในลำไส้ดี
ส่งผลให้มีการมีการขับถ่ายดี ซึ่งช่วยขจัดของเสียออกจากร่างกาย ทำให้ผิวพรรณสดใส
ช่วยลดการสะสมของไขมัน อีกทั้งยังทำให้ร่างกายแข็งแรงขึ้น เพราะ 60-70
เปอร์เซ็นต์ของเซลล์ภูมิคุ้มกันนั้นสร้างมาจากลำไส้
ช่วยเสริมการทำงานของระบบเผาผลาญพลังงาน
กิมจิอุดมไปด้วยวิตามินบี 1 และบี 2 โดยวิตามินบี 1
มีบทบาทสำคัญในการเผาผลาญคาร์โบไฮเดรต และวิตามินบี 2
มีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมการเผาผลาญไขมัน จึงช่วยไม่ให้อ้วนได้ง่าย
ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย
กิมจิอุดมไปด้วยสาร GABA ซึ่งช่วยให้ร่างกายผ่อนคลาย
ลดความเครียดและยังช่วยให้นอนหลับได้ดีด้วย
ช่วยเสริมการเผาผลาญไขมัน
สารแคปไซซิน (Capsaicin) ในกิมจิจะช่วยเสริมการเผาผลาญไขมันในร่างกาย
จึงมีผลช่วยลดน้ำหนักได้ นอกจากนี้สารชนิดนี้ยังช่วยให้ลำไส้เคลื่อนตัวได้ดี
ทำให้การขับถ่ายอุจจาระคล่อง ส่งผลให้สิ่งแวดล้อมในลำไส้ดี
และเสริมสร้างภูมิคุ้มกันที่แข็งแรงของร่างกาย
วิธีการรับประทานกิมจิเพื่อช่วยให้ลำไส้ทำงานได้ดีขึ้น
รับประทานร่วมกับอาหารอื่นๆ
เช่น อะโวคาโดหรือน้ำมันมะกอก
อะโวคาโดอุดมไปด้วยเส้นใยอาหารและวิตามินอี
ซึ่งช่วยเสริมคุณค่าด้านความงามยกกำลังสอง น้ำมันมะกอกประกอบด้วยกรดโอเลอิก (Oleic acid) ที่ช่วยให้การขับถ่ายของเสียออกจากทางอุจจาระได้ง่ายขึ้นและส่งผลให้สิ่งแวดล้อมในลำไส้ดี
รับประทานตอนกลางคืน
ลำไส้คนเรามักจะเคลื่อนที่ทำงานได้ดีในตอนกลางคืน
ดังนั้นเวลาที่จะทำให้ร่างกายนำแลคติกแอซิด
แบคทีเรียจากกิมจิไปเสริมการทำงานของลำไส้ให้ดีขึ้น
คือเวลากลางคืนหลังจากการตื่นนอนในตอนเช้าประมาณ 15-19 ชั่วโมง
รับประทานโดยไม่ปรุงด้วยความร้อน
แลคติกแอซิด
แบคทีเรียไม่ทนต่อความร้อนที่ใช้ปรุงอาหาร
การรับประทานกิมจิดิบจะทำให้ร่างกายรับแบคทีเรียชนิดดีนี้เข้าสู่ร่างกายได้อย่างเต็มที่
รับประทานทุกวันในปริมาณพอเหมาะ
การรับประทานกิมจิทุกวันจะทำให้ร่างกายรับแลคติกแอซิด
แบคทีเรียเข้าสู่ร่างกายเพื่อเสริมสร้างสิ่งแวดล้อมที่ดีของลำไส้
แต่ก็ไม่ควรรับประทานในปริมาณที่มากเกินไป
เพราะนอกจากจะรับปริมาณเกลือเข้าสู่ร่างกายมากเกินความจำเป็นแล้ว
ยังทำให้ร่างกายรับสารแคปไซซินในปริมาณมากเกินไป
จนไปทำให้เนื้อเยื่อในระบบทางเดินอาหารระคายเคือง และหากสารชนิดนี้ไปทำลายเนื้อเยื่อที่ลำไส้เล็กก็จะส่งผลเสียต่อระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย
ดังนั้นจึงควรรับประทานในปริมาณที่พอเหมาะพอดีเพื่อประโยชน์สูงสุดต่อร่างกาย
ไม่รับประทานในขณะที่ท้องว่าง
หากรับประทานกิมจิในขณะที่ท้องว่าง
น้ำย่อยในกระเพาะอาหารจะย่อยสลายแลคติกแอซิด แบคทีเรีย ทำให้แบคทีเรียรอดชีวิตไปสู่ลำไส้น้อย
เวลาที่ดีในการรับประทานกิมจิ คือ รับประทานพร้อมกับอาหาร หรือหลังมื้ออาหาร
นอกจากดีต่อสุขภาพลำไส้แล้วกิมจิก็ดีต่อสุขภาพความงาม
บ้านเราหาซื้อกิมจิได้ง่าย ลองหามารับประทานกันดู
ขอขอบคุณแหล่งที่มา:bybirth.jp