แสงจากหน้าจอคอมพิวเตอร์ แท็บเล็ต และสมาร์ทโฟน ประกอบด้วยแสงสีฟ้า (Blue light) ซึ่งเป็นแสงที่มีความยาวของคลื่นแสง 380-500
นาโนเมตร นั่นหมายความว่าแสงสีฟ้ามีการกระจายตัวได้ดีมากจนสามารถทะลุผ่านไปยังจอประสาทตา
ก่อให้เกิดโรคตาตามมาทั้งภาวะตาแห้ง จอประสาทตาเสื่อม
และโรคคอมพิวเตอร์วิชชั่นซินโดรม
ตาแห้ง (Dry Eyes) เกิดจากการทำงานของระบบต่อมน้ำตาผิดปกติ
หรือมีการระเหยของน้ำตาที่มากเกินไป ส่งผลให้แสบตา เคืองตา
และรู้สึกเหมือนมีสิ่งแปลกปลอมในตา
จอประสาทตาเสื่อม (AMD) เกิดจากความผิดปกติบริเวณจุดกลางรับภาพของจอประสาทตา
ทำให้สูญเสียการมองเห็นบริเวณกึ่งกลางภาพ โดยปกติมักเกิดขึ้นกับผู้สูงวัย
แต่แสงสีฟ้าที่กระทบดวงตาจากการใช้เวลาอยู่หน้าจอนาน ๆ
จะกระตุ้นให้จอประสาทตาเสื่อมเร็วขึ้น
โรคคอมพิวเตอร์วิชชั่นซินโดรม (CVS) เกิดจากคลื่นแสงสีฟ้าจะก่อให้เกิดการสร้างอนุมูลอิสระเข้าไปทำลายเซลล์ในดวงตาจนเสียหาย
ทำให้เซลล์ค่อย ๆ เสื่อมลงและไม่สามารถใช้งานได้ และก่อให้เกิดอาการปวดตา แสบตา
น้ำตาไหล ตาพร่ามัว อาจมีอาการปวดศีรษะ ต้นคอ ไหล่ และหลังร่วมด้วย
วิธีดูแลดวงตาให้ปลอดภัยจากแสงสีฟ้า
· ปรับแสงหน้าจอให้สว่างและสบายตา
ไม่จ้าหรือมืดเกินไปจนทำให้สายตาต้องใช้งานหนัก
· เพิ่มแสงสว่างโดยรอบให้เพียงพอ
หากห้องทำงานมืดไปให้หาโคมไฟมาช่วยเพิ่มแสงที่โต๊ะทำงาน
· ปรับตำแหน่งหน้าจอให้ต่ำกว่าระดับสายตาเล็กน้อย
และกำหนดระยะห่างระหว่างสายตาไปยังหน้าจอให้อยู่ห่างประมาณ 20-30 นิ้ว
· ใช้แผ่นกรองแสงบริเวณหน้าจอหรือสวมแว่นตากรองแสงสีฟ้า
· พักสายตาเป็นระยะ ตามกฎ 20-20-20 คือ
พักสายตาทุก 20 นาที โดยมองออกไปไกล 20 เมตรเป็นเวลา 20 วินาที
ที่มา
https://www.megawecare.co.th/